เนื้อหา

• คำจำกัดความของ Bitcoin
• Bitcoin แบบง่าย: Bitcoin มีกี่ตัว?
• อุปทานคงที่เพิ่มมูลค่า
• แล้วเหรียญหายไปได้อย่างไร? Bitcoin ถูกเก็บไว้ที่ไหน?
• ประวัติราคา Bitcoin
• อะไรที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin?
• ใช้ Bitcoin กับอะไรได้บ้าง
• การใช้ Bitcoin ในโลกแห่งความเป็นจริง
• ความคิดสุดท้าย

บล็อกเชน สกุลเงินดิจิทัล ระบบไร้ศูนย์กลาง HODL วาฬ นักสำรวจบล็อค กระเป๋าเงินเย็น โทเค็น Pump และ Dump หากคำทั้งหมดนี้ทำให้คุณงงล่ะก็ ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่แต่คุณคนเดียวแน่นอน

โลกของเหรียญคริปโตอยากที่จะมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยเสนอทางเลือกให้กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินปอนด์

แต่สำหรับหลาย ๆ คน อาจรู้สึกว่าอุตสาหกรรมนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องทางเทคนิค อ่านบทความนี้ต่อ เราจะอธิบาย Bitcoin ให้คุณเข้าใจได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งจะทำให้เข้าใจถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้

คำจำกัดความของ Bitcoin

บิทคอยน์ คืออะไร? bitcoin ทําอะไรได้บ้าง? โดยพื้นฐานแล้ว บิทคอยน์ คือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดยปราศจากการแทรกแซงจากธนาคารกลาง เปรียบเทียบง่าย ๆ คือในขณะที่ธนาคารสหรัฐฯ (FED) รับผิดชอบระบบการเงินทั้งหมดของอเมริกา แต่สำหรับ Bitcoin นั้นไม่มีบุคคลหรือองค์กรเดียวที่รับผิดชอบระบบเงินนี้

หลังจากที่เรารู้แล้วว่าบิทคอยน์ คืออะไร มาดูกันว่าทำไมต้องมี Bitcoin เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ด้วย Bitcoin ถูกสร้างขึ้นในปี 2008 โดยบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto โดยเขาได้เขียนเอกสารไวท์เปเปอร์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์สำหรับ Bitcoin ไว้

ลองจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนสามารถชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กันได้โดยไม่ต้องใช้ธนาคารหรือ PayPal การที่ Bitcoin เกิดขึ้นมานั้นเป็นผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกซึ่งเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบในภาคการเงิน

Nakamoto คิดว่าข้อดีที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งคือ Bitcoin มีค่าธรรมเนียมในการชำระเงินที่ต่ำกว่า การบริหารธนาคารเป็นธุรกิจที่มีราคาแพง และแน่นอนว่าเป็นธุรกิจที่มีค่าใช้จ่ายในสำนักงานและความปลอดภัยที่ต้องคำนึงถึง และค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักจะส่งต่อไปยังผู้บริโภค โดย Nakamoto มีวิสัยทัศน์ที่อยากให้ทุกคนมีธนาคารเป็นของตัวเองและสร้างระบบที่ไม่ต้องมีคนกลางอีกต่อไป

ในช่วงแรก ๆ ต้องใช้รหัสบล็อคเชนถึง 30,000 ไลน์เพื่อเอาสกุลเงินดิจิทัลออกจากพื้นดิน (บล็อกเชนคือเทคโนโลยีที่สนับสนุน Bitcoin)

พูดสั้น ๆ คือบล็อกเชนเป็นฐานข้อมูลสาธารณะที่แปลงทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายให้กลายเป็นดิจิทัลอย่างสมบูรณ์

การรวมกลุ่มของธุรกรรมจะถูกวางลงในบล็อกและแนบกับห่วงโซ่ของบล็อกที่อยู่ก่อนหน้านั้น บล็อกใหม่จะเพิ่มได้ก็ต่อเมื่อมีการไขปริศนาที่ซับซ้อนแล้วเท่านั้น และบุคคลแรกที่ทำได้จะได้รับ Bitcoin เป็นรางวัล

Bitcoin แบบง่าย: Bitcoin มีกี่ตัว?

Bitcoin มีกี่ตัว? พูดง่าย ๆ นับตั้งแต่ Bitcoin เปิดตัวในเดือนมกราคม 2009 อุปทานทั้งหมดได้ต่อยอดที่ 21 ล้าน และมีการขุดมากกว่า 18.9 ล้านตัวในขณะที่เขียน ตามข้อมูลของ CoinMarketCap

ยังมีอีก 2.1 ล้านตัวที่ยังรอการค้นพบ และจะหาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ในปีต่อ ๆ ไป การประมาณแนะนำว่า Bitcoin ตัวสุดท้ายจะถูกขุดในปี 2140 ซึ่งประมาณ 120 ปีนับจากนี้

แฟน ๆ ของ Bitcoin แย้งว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีจากสิ่งที่ธนาคารกลางหลายแห่งกำลังทำ ซึ่งพิมพ์เงินได้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรการนี้เรียกว่าการผ่อนคลายเชิงปริมาณ มักส่งผลให้เกิดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่าสิ่งต่าง ๆ จะมีราคาแพงขึ้น

อุปทานคงที่เพิ่มมูลค่า

การมีอุปทานคงที่ ผู้เสนออ้างว่า Bitcoin จัดการเพื่อให้เกิดความขาดแคลนทางดิจิทัล และทำให้ทุกเหรียญมีค่ามากขึ้นด้วยเหตุนี้

สำหรับตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง ให้ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับโคโรนาไวรัส เจลล้างมือมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ แต่อุปทานยังคงเท่าเดิม ด้วยเหตุนี้ราคาจึงสูงขึ้นทำให้เจลล้างมือมีค่ามากขึ้น

ก่อนที่เราจะไปต่อ พูดสั้น ๆ เกี่ยวกับอุปทานว่า Bitcoin จำนวน 18.9 ล้านที่คาดว่าจะมีการหมุนเวียนในขณะนี้ แม้ว่าจะเป็นความจริงที่พวกเขาขุดได้ทั้งหมด แต่จำนวน Bitcoin ที่ยังคงใช้งานอยู่นั้นน่าจะต่ำกว่านี้มาก

บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Chainalysis ประมาณการว่าประมาณหนึ่งในห้าของเหรียญทั้งหมดที่ขุดได้จนถึงปัจจุบัน (ประมาณ 2.78 ถึง 3.79 ล้านเหรียญ) อาจจะสูญหาย 

แล้วเหรียญหายไปได้อย่างไร? Bitcoin ถูกเก็บไว้ที่ไหน?

พูดง่าย ๆ คือคุณต้องมีกุญแจส่วนตัวที่ทำให้คุณสามารถใช้เหรียญได้ การสูญเสียกุญแจอาจทำให้เกิดหายนะ ในเว็บไซต์ทั่วไป คุณสามารถกดลืมรหัสผ่านและตั้งรหัสผ่านใหม่ได้ แต่ว่า Bitcoin กลับไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าว

ประวัติราคา Bitcoin

Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่เปิดตัว

ในปี 2011 ราคาเริ่มต้นที่ 0.30 ดอลล่าร์ต่อ Bitcoin เมื่อต้นปี 2017 หนึ่ง Bitcoin มีมูลค่าประมาณ 998 ดอลล่าร์ในฤดูหนาวปี 2020 มีมูลค่าเกือบ 20,000 ดอลล่าร์เดือนเมษายน 2021 หนึ่ง Bitcoin ทำให้คุณได้รับเงินคืน 60,000 ดอลล่าร์ในเดือนกรกฎาคม ราคาลดลงเหลือ 30,000 ดอลล่าร์ก่อนที่จะฟื้นตัวเป็น 50,000 ดอลล่าร์ในช่วงต้นเดือนกันยายน และจากนั้นก็ทำจุด All Time High ใหม่ที่ 68,789.63 ดอลล่าร์ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ตามข้อมูลของ CoinMarketCap 

อันที่จริง ความผันผวนของมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้กลับกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ลองคิดว่าดูว่าในเดือนพฤษภาคม 2010 BTC แค่เศษเสี้ยวของคุณจะกลายเป็นเงินมูลค่ามหาศาลได้ 

• บางคนทำเงินได้มากในช่วงแรก ๆ ดูได้จาก Cameron และ Tyler Winklevoss ฝาแฝดทั้งสองที่ฟ้อง Mark Zuckerberg ในช่วงต้นปี 2010 และได้รับข้อตกลงที่มีรายงานว่ามีมูลค่าถึง 65 ล้านดอลล่าร์ และในปี 2013 พวกเขาลงทุนเงินสด 11 ล้านดอลล่าร์ใน Bitcoin ในตอนที่เหรียญมีมูลค่าซื้อขายที่ 120 ดอลล่าร์ผ่าน และในอีก 4 ปีต่อมา BTC ของพวกเขาเพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000% ซึ่งมากกว่า 11,000 ดอลล่าร์ต่อเหรียญ ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นมหาเศรษฐีไปเลย
• บุคคลหนึ่งที่พยายามแสดงความกล้าหาญต่อสิ่งต่าง ๆ คือ Laszlo Hanyecz ซึ่งตอนนี้จะเป็นที่รู้จักในนาม “คนซื้อพิซซ่า Bitcoin” ตลอดไป ในความพยายามที่จะพิสูจน์ว่า Bitcoin สามารถนำมาใช้เพื่อซื้อสินค้าได้ทุกวัน ในเดือนพฤษภาคม 2010 เขาได้สะดุด BTC10,000 สำหรับพิซซ่าสองถาดที่ Papa John's แน่นอนว่า Bitcoin นั้นไม่คุ้มเลยในตอนนั้น แต่ในขณะที่เขียน เหรียญนี้ก็มีค่าประมาณ 60,000 ดอลล่าร์นี่หมายความว่าเขาจ่ายเงินมหาศาลถึง 600 ล้านดอลล่าร์

อะไรที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin?

หากคุณยังมือใหม่ในคริปโต และต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับ Bitcoin ง่าย ๆ มีคำถามหนึ่งข้อที่คุณอาจจะอยากถามในตอนนี้ สกุลเงินเสมือนจะเปลี่ยนจากการมีมูลค่าต่ำกว่าร้อยละเป็นมูลค่าหลายพันดอลลาร์ได้อย่างไร?

เป็นคำถามที่ดีมาก คุณสามารถพูดได้ว่าสำหรับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ทองคำ เงินหรือธนบัตรในกระเป๋าของคุณ เพราะมูลค่าของ BTC นั้นเพิ่มขึ้นเพราะ BTC มีลักษณะของเงินทุกประเภท

มีข้อแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งคือ แทนที่จะไว้วางใจในนายธนาคาร คุณกำลังไว้วางใจระบบที่ยืดหยุ่นซึ่งสร้างขึ้นบนหลักการทางคณิตศาสตร์ เมื่อจำนวนผู้สนใจ Bitcoin เพิ่มขึ้น ไม่ต้องพูดถึงธุรกิจที่ยอมรับ แต่มูลค่าของเหรียญจะเพิ่มขึ้นอีก

ย่อมมีปัจจัยอื่น ๆ อยู่บ้าง สำหรับผู้เริ่มต้น คุณมีเหตุการณ์ที่เรียกว่าการลดลงครึ่งหนึ่ง หากคุณให้ความสนใจก่อนหน้านี้เล็กน้อย คุณจะจำได้ว่านักขุดจะได้รับรางวัลเป็น BTC เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาไขปริศนาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนซึ่งเพิ่มบล็อกลงในห่วงโซ่ได้สำเร็จ

ในปี 2009 เมื่อ Bitcoin เปิดตัวครั้งแรกเหรียญมีราคาที่ BTC50 แต่ ณ ตอนนั้นทุก ๆ สี่ปี รางวัลจะถูกเฉือน 50% ในทุก ๆ 210,000 บล็อค ซึ่งทำให้ราคาร่วงลงสู่ BTC25 ในเดือนพฤศจิกายน 2012 และ BTC12.5 ในเดือนกรกฎาคม 2016 และในเดือนพฤษภาคม 2020 ลดลงเหลือ BTC6.25 การลดลงครึ่งหนึ่งครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในปี 2024 หลังจากการลดลงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากมีเหรียญหมุนเวียนน้อยลง ราคาจึงเพิ่มขึ้นเพราะความต้องการที่สูงขึ้น

สมมติว่าความต้องการ Bitcoin ยังคงมีมากขึ้น ราคาก็อาจจะแข็งค่าขึ้นต่อไป โดยปกติ มูลค่าที่เพิ่มขึ้นนั้นจะไม่เกิดขึ้นทันที ซึ่งจะใช้เวลาประมาณหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นถึงจะเริ่มเพิ่มขึ้น บทความใน Currency.com ก่อนหน้านี้เคยได้อธิบายรายละเอียด BTC เพิ่มเติมไปแล้ว โดยเหรียญมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 8,566% ในช่วง 12 เดือนหลังจากการลดลงครึ่งหนึ่งในปี 2012 และเพิ่มขึ้น 286% หลังจากเหตุการณ์ในปี 2016 หลังจากการลดลงครึ่งหนึ่ง ในเดือนพฤษภาคม 2020 ราคา BTC เพิ่มขึ้นเกือบ 120% ภายในสิ้นปี

และนี่เป็นเพียงแค่หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา BTC ในขณะที่ Bitcoin เริ่มเข้ากระแสหลักหรือที่เรียกว่า smart money ก็ทำให้มูลค่าของเหรียญสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก

ใช้ Bitcoin กับอะไรได้บ้าง

ตอนนี้เริ่มมีหลายประเทศและหลายการค้าออกมายอมรับ Bitcoin มากขึ้น ทำให้ Bitcoin เริ่มเป็นมิตรกับผู้บริโภคมากขึ้น

ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2021 เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกที่ทำการประมูล Bitcoin อย่างถูกกฎหมาย มีคำสั่งทางกฎหมายให้ผู้ค้าสามารถยอมรับการชำระเงินด้วย Bitcoin ควบคู่ไปกับเงินดอลลาร์ได้

ในสหรัฐอเมริกา แบรนด์ใหญ่บางแห่งได้เริ่มอนุญาตให้ผู้บริโภคชำระเงินได้ด้วย BTC ตัวอย่างเช่น Microsoft และ PayPal มีตัวเลือกในการชำระเงินด้วย Bitcoin และ Tesla ก็ประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะเริ่มรับ BTC ในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้

เมื่อต้นปี 2021 Elon Musk กลับหยุดความคิดริเริ่มนี้เนื่องจากข้อเสียด้านสิ่งแวดล้อมที่มาจากการขุดเหรียญ และไม่นานมานี้ เขากล่าวว่าบริษัทน่าจะเริ่มออกมายอมรับเหรียญอีกครั้ง เนื่องจากนักขุดเริ่มเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนในการขุดเหรียญเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมมากขึ้น

การใช้ Bitcoin ในโลกแห่งความเป็นจริง

ในยุโรป กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ต่างพากันยอมรับ BTC ให้เป็นวิธีการชำระเงินเช่นกัน นวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุด ณ ตอนนี้คือการที่บริษัท Fintech Startup เช่น Lightning Network กำลังแนะนำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น บัตรเดบิตแบบเติมเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้คริปโตได้ทุกที่

วิธีการทำงานคือ สมมติว่าคุณเข้าไปร้านค้าเพื่อซื้อชีสก้อนหนึ่งราคา 5.99 ดอลลาร์ คุณสามารถแปลง BTC ที่คุณมีให้เป็นเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ทันทีและเอาไปจ่ายค่าชีสได้ โดยผู้ขายก็จะได้รับเป็นเงินตราดอลล่าร์ปกติ

สิ่งนี้เป็นสัญญาณที่ดีมาก ๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคมีเครื่องมือที่ทำให้ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เข้าถึงได้ง่าย แต่จะดีมากขึ้นถ้าผู้ค้าเริ่มออกมายอมรับ Bitcoin ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Bitcoin ยังเป็นสกุลเงินก็ยังห่างไกลจากกระแสหลักอยู่

Warren Buffett นักลงทุนหลายพันล้านและเป็นชายที่ร่ำรวยที่สุดอันดับสี่ในสหรัฐอเมริกา ยังคงมีคำถามและยืนยันที่จะไม่ลงในสกุลเงินดิจิทัล ในการสัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้กับ CNBC เขาบอกว่าเขาไม่อายที่จะบอกว่าเขาไม่อยากป็นเจ้าของ Bitcoin ซึ่งเขากล่าวว่า

โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินดิจิทัลไม่มีมูลค่าและไม่ก่อให้เกิดอะไรเลย สิ่งที่คุณหวังว่าจะมีคนอื่นเข้ามาและจ่ายเงินให้คุณมากขึ้นในภายหลัง แต่แล้วคนนั้นก็มีปัญหา ในแง่ของมูลค่าคือศูนย์ Warren Buffett

เมื่อใดก็ตามที่ Warren Buffett ออกมาพูดเกี่ยวกับคริปโต แน่นอนว่าผู้คนหลายคนเห็นด้วยกับเขา แต่แฟนคริปโตบางคนแนะนำว่าไม่คุ้มที่จะรับคำแนะนำของชายอายุ 91 ปี เพราะเขาไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนและไม่มีหรืออีเมลอีกต่างหาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนก็มีความสำคัญต่อ Bitcoin

นักลงทุนบางคนเช่น Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates คิดว่า Bitcoin มีมูลค่ามหาศาล “การได้คิดค้นเงินรูปแบบใหม่ผ่านระบบที่เขียนโปรแกรมลงในคอมพิวเตอร์และใช้งานได้ประมาณ 10 ปีและกำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะทั้งเงินประเภทหนึ่งและคลังเก็บความมั่งคั่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง” เขากล่าว

ในขณะที่มีศัตรูและแฟน ๆ ของ Bitcoin ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าความผันผวนที่สูงมากทำให้เป็นเดิมพันที่มีความเสี่ยงและเป็นการลงทุนเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น และราคาของเหรียญยังอ่อนไหวต่อสิ่งที่ผู้มีอิทธิพลคิดมาก ถ้า Elon Musk บอกว่าเยี่ยม ราคาก็สูงขึ้น ถ้า Bill Gates บอกว่าไม่ใช่ ราคาก็จะลดลง

Bitcoin ไม่เหมือนทุน (Equity) เช่น หุ้นของ Apple การประเมินมูลค่าจะขึ้นอยู่กับรายได้ ศักยภาพในการเติบโต ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม มูลค่าของ Bitcoin ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนอุปสงค์และอุปทานเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคนต้องการ ราคาก็จะขึ้นไป ถ้าคนเลิกอยากได้ ราคาก็จะลดลง 

ความคิดสุดท้าย

ในขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า Bitcoin กำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิเคราะห์คนอื่น ๆ มองว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ราคาจะไม่ลดลงเลย

พูดง่าย ๆ เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า Bitcoin สามารถเข้าสู่กระแสหลักได้หรือไม่ หรือจะพังและไหม้เพื่อรักษามูลค่าปัจจุบันรึเปล่า

คุณจึงควรทำวิจัยของคุณเองและจำไว้เสมอว่าการตัดสินใจซื้อขายขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณต่อความเสี่ยง ความเชี่ยวชาญของคุณในตลาดนี้ การกระจายของพอร์ตการลงทุนของคุณ และคุณรู้สึกสบายใจกับการสูญเสียเงินเพียงใด อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณจะสูญเสียได้

อ่านเพิ่มเติม

การคาดการณ์ราคา COMP: Compound จะเป็นอย่างไรต่อไป?

ประเทศที่คริปโตถูกกฎหมาย: ประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มลงทุน