แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์: ค่าเงินดอลล่าร์จะเป็นอย่างไรต่อไปในปี 2022
เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและ QE ก็ลดวงเงินอย่างรวดเร็ว แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์จึงเป็นไปในทิศทางบวก

เนื้อหา
- ผลการดำเนินงาน USD ในปี 2021
- การคาดการณ์ USD ปี 2022
- Fed กับนโยบายการเงิน
- อัปเดท Fed ประจำเดือนธันวาคม
- แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐในปี 2022: ยอดค้าปลีกเติบโต
- ทิศทางที่ดีในการจ้างงาน
- การพยากรณ์ของ ING
- การคาดการณ์ USD ปี 2022 – Goldman Sachs
- สรุปการคาดการณ์
- คำถามที่พบบ่อย
เมื่อเงินดอลล่าต์ต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงมีการยืนยันว่าการซื้อพันธบัตรจะลดลงถึง 30 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนเริ่มตั้งแต่มกราคม 2022 ซึ่งทำให้ผู้คนมีความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ได้มากขึ้น
แต่ว่าโรคโควิด-19 ที่ยังไม่จบไม่สิ้น และสายพันธุ์โอไมครอนที่คุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ยังไม่สามารถรับการประกันได้ว่าเงินดอลล่าร์จะฟื้นตัวในปี 2022
มาดูและวิเคราะห์ค่าเงิน usd ของปีนี้ และดูว่าการคาดการณ์เหรียญ USD สำหรับปี 2022 จะเป็นไปในทิศทางใด
ก่อนที่จะไปดูการคาดการณ์ราคา เรามาสรุปคร่าว ๆ ว่าค่าเงินดอลลาร์มีประสิทธิภาพอย่างไรในปี 2021
ผลการดำเนินงาน USD ในปี 2021
ในการซื้อขายที่ผันผวนเมื่อต้นปี เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร สกุลเงินยูโรมีการซื้อขายที่ 1.23 ดอลลาร์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อต้นปี 2021 ซึ่งสูงที่สุดในรอบสองปีครึ่ง
ทั้งเงินดอลล่าร์และเงินยูโรร่วงลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 โดยแตะระดับต่ำสุดระหว่างปีที่ 1.17 ดอลลาร์ในวันที่ 31 มีนาคม ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวดีขึ้นตลอดช่วงเวลานี้ เนื่องจากอเมริกามีการเร่งฉีดวัคซีน ในขณะที่ยูโรโซนประสบปัญหาการล็อกดาวน์ครั้งที่สอง และการเริ่มโครงการวัคซีนที่ช้ามาก
จากช่วงเริ่มต้นของไตรมาสที่สอง เงินยูโรแข็งค่าขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยดีดตัวขึ้นจาก 1.17 ดอลลาร์ก่อนเข้าสู่แนวต้านที่ 1.23 ดอลลาร์ในวันที่ 1 มิถุนายน มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ USD หนุนค่าเงินยูโรในช่วงเวลานี้ ในวันที่ 19 มิถุนายน เงินยูโรอ่อนค่าลงอีกครั้งที่ 1.19 ดอลลาร์ และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 1.17 ดอลลาร์ในวันที่ 19 สิงหาคม
ในเดือนกันยายน เงินยูโรกลับมาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยแตะระดับ 1.19 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 5 กันยายน
แต่ว่า เงินยูโรก็ยังคงอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ทั้งคู่แตะ 1.15 ดอลลาร์ ก่อนร่วงลงมาที่ 1.12 ดอลลาร์ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ค่าเงินยูโรได้ขึ้นกลับมาเล็กน้อย โดยพุ่งขึ้นเป็น 1.13 ดอลลาร์ในวันที่ 8 ธันวาคม
การฟื้นตัวอาจเป็นส่วนหนึ่งจากการเผยแพร่ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม โดยรายงานอัตราการขึ้นเป็น 6.2% ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี
ราคาคู่ซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่ 1.126 ดอลลาร์
การคาดการณ์ USD ปี 2022
USD ประสบปัญหาตลอดปี 2020 และส่วนใหญ่ของปี 2021
อย่างไรก็ตาม ด้วยผลลัพธ์ด้านแรงงานเป็นไปทิศทางที่ดีและเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว จึงมีหลายปัจจัยที่อาจทำให้การคาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจเป็นไปในทางที่ดี แต่ว่าทั้งปัญหาโอไมครอนและแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อ จึงอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอน เรามาวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลกันดีกว่า
Fed กับนโยบายการเงิน
ตลอดช่วงการระบาดใหญ่ ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) ได้ใช้นโยบายการเงินที่หละหลวมอย่างมาก แต่ด้วยดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index) ที่เผยแพร่ออกไปในเดือนพฤศจิกายน โดยได้รายงานการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อถึง 6.2% (เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี) จึงทำให้มีการผลักดันให้ธนาคารกลางผ่อนมาตรการเชิงปริมาณลง
ก่อนเข้าสู่การพัฒนาของราคาครั้งล่าสุด เรามาดูเรื่องราวเกี่ยวกับนโยบายการเงินเมื่อปีที่แล้วกันก่อน
ในช่วงที่เลวร้ายที่สุดของการระบาดใหญ่ ธนาคารกลางสหรัฐได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0% ถึง 0.25% และเริ่มโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ โดยซื้อพันธบัตรมูลค่า 120 พันล้านดอลลาร์ (89 พันล้านปอนด์) ในแต่ละเดือน นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษดึงความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลงในปี 2020
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน Fed ได้ปรับแนวโน้มการเติบโต โดยประกาศว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในปี 2023 ในการประชุมครั้งก่อน พวกเขาไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2023 แต่เป็นการทำนายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 2024 ส่งผลให้ตลาดปรับตัวขึ้น โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดในหนึ่งวันนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 จากข่าวการประกาศ
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม Fed ย้ำว่าในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ อัตราดอกเบี้ยจะไม่ขึ้นไปจนถึงปี 2023
ด้วยข้อมูล CPI ล่าสุดที่ส่งสัญญาณว่าจะมีเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม Fed ได้เปลี่ยนจุดยืนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในการตอบรับของภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น Sam Bullard นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Wells Fargo กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่า “การหยุดชะงักของอุปทานและการฟื้นตัวของบริการทำให้เกิดความวิตกกังวลอย่างมากว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจคงอยู่ได้นานกว่าที่ Fed คาดการณ์ไว้
“เราคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสินค้าจะนำผลประโยชน์มาให้กับบริการในปีหน้า แต่สัญญาณทั้งหมดบ่งชี้ว่าปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานจะทำให้อัตราเงินเฟ้อลุกลามต่อไป”
อัปเดท Fed ประจำเดือนธันวาคม
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม Fed ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าในขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าสภาวะตลาดแรงงาน "จะถึงระดับที่สอดคล้องกับการประเมินการจ้างงานสูงสุดของคณะกรรมการ" การซื้อสินทรัพย์สุทธิของหลักทรัพย์ธนารักษ์จะลดลง 20 พันล้านดอลลาร์และ 10 พันล้านดอลลาร์สำหรับหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยหน่วยงานต่อเดือนเริ่มในเดือนมกราคม
คุณมีความเชื่อมั่นในตราสารระดับไหน DXY?
คำแถลงยืนยันนี้เกิดจากการที่ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าอัตราเงินเฟ้อได้เกินขอบเขตเป้าหมายที่ 2% ไปมาก
Jerome Powell ประธาน Fed มีการแถลงข่าวว่า "ความไม่สมดุลของอุปทานและอุปสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดใหญ่และการกลับมาของเศรษฐกิจยังคงส่งผลให้ระดับเงินเฟ้อสูงขึ้น ปัญหาเหล่านี้ใหญ่ขึ้นและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยไวรัสโควิดทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น”
ในการตัดสินใจเร่งให้ลดวงเงิน แถลงการณ์ของ Fed กล่าวว่า “ในการประเมินจุดยืนที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามดูผลกระทบของข้อมูลที่เข้ามาเพื่อแนวโน้มเศรษฐกิจต่อไป คณะกรรมการจะเตรียมปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสมหากมีความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ”
แผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้น Christopher Waller ผู้ว่าการแห่ง Fed และผู้สนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยกล่าวว่าการประชุมในเดือนมีนาคมอาจมีการเริ่มต้นขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการสองวัน เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่คิดเพิ่มอัตราร้อยละสามในสี่ซึ่งอาจเริ่มในฤดูใบไม้ผลิ
แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐในปี 2022: ยอดค้าปลีกเติบโต
ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนตุลาคมสูงเกินคาด อัตราเงินเฟ้อไม่สามารถหยุดนักช้อปไม่ให้ใช้จ่ายเงินได้ เนื่องจากยอดขายพุ่งขึ้น 1.7% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างมาก
เมื่อเปรียบเทียบเดือนตุลาคมกับกันยายน ยอดขายเพิ่มขึ้น 2.2% ในห้างสรรพสินค้า 3.8% ในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ และ 4% ที่ร้านค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ต
แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้จะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังขยายตัว แต่สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าระดับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะส่งผลต่อการบิดเบือนตัวเลขยอดขายหรือไม่
เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคมที่เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนตุลาคม เกือบครึ่งหนึ่งของกำไรสามารถลดลงไปสู่ราคาที่สูงขึ้นได้
ทิศทางที่ดีในการจ้างงาน
ข้อมูลการจ้างงานใหม่ที่รายงานโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐในช่วงต้นเดือนธันวาคมชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
อัตราการว่างงานลดลงอีก 0.4% ในเดือนพฤศจิกายนทำให้อัตรารวมเป็น 4.2%
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจที่ขยายตัวได้เพิ่มการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มอีก 210,000 ตำแหน่ง รายได้โดยเฉลี่ยก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน โดยรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 31.03 ดอลลาร์สำหรับพนักงานทุกคน หรือเพิ่มขึ้นแปดเซ็นต์
แม้จะมีผลลัพธ์ในเชิงบวก แต่โอไมครอนอาจทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ดอลลาร์สหรัฐในปี 2022
Andrew Hunter นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสหรัฐฯ ที่ Capital Economics กล่าวกับ Al Jazeera ว่า “ในการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพฤศจิกายน ได้กำไรเพิ่มขึ้นเพียง 210,000 ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานนั้นสะดุดลง แม้กระทั่งก่อนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตราการติดเชื้อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตกตอนกลาง”
การพยากรณ์ของ ING
สำหรับปี 2022 ING ทำนายว่าสกุลเงินยุโรปจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเงินดอลลาร์ โดยอ้างว่า “ตัวชี้วัดทั้งหมดชี้ไปที่การเติบโตที่แข็งแกร่งของสหรัฐในปี 2022 (ใกล้กับ 5%) อัตราเงินเฟ้อที่คงอยู่ และ Fed พร้อมสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย”
ING แนะนำว่าการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอาจทำให้สกุลเงินยุโรปมีความเสี่ยงมากขึ้น
สถาบันการเงินของเนเธอร์แลนด์ให้เหตุผลว่าประเทศที่ใช้แนวทางการเข้าถึงเชิงรุกในการกระชับนโยบายการเงิน จะทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในปี 2022
ING คาดการณ์ราคา EUR/ USD สำหรับไตรมาสแรกของปี 2022 ที่ 1.15 ดอลลาร์ก่อนที่จะลดลงเหลือ 1.13 ดอลลาร์ในช่วงกลางปี ในไตรมาสที่สามของปี 2022 ING คาดการณ์ว่าคู่ซื้อขายนี้จะลดลงอีกครั้งที่ 1.11 ดอลลาร์ก่อนที่จะลดลงเหลือ 1.10 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า
ซื้อขาย EUR/USD – แผนภูมิ EUR/USD
การคาดการณ์ USD ปี 2022 – Goldman Sachs
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน Goldman Sachs ได้แก้ไขการคาดการณ์สามเดือนของ EUR/USD เป็น 1.14 ดอลลาร์และการคาดการณ์หกเดือนเป็น 1.16 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์การลงทุนของธนาคารกล่าวว่า "เราคาดว่าตลาดจะยังคงมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงด้านลบต่อกิจกรรมในเขตยูโร"
ซื้อขาย ดัชนี DXY USD – กราฟราคา DXY
สรุปการคาดการณ์
แม้จะมีความไม่แน่นอนว่าโควิดสายพันธ์ุใหม่โอไมครอนจะอยู่กับเรานานแค่ไหนและจะทำให้เศรษฐกิจผันผวนอย่างต่อเนื่องมากเพียงใด แต่ก็มีเหตุผลมากมายที่ทำให้เห็นถึงทิศทางในแง่บวกของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
ด้วยเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง การเงินที่ตึงตัวเพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อที่รุนแรง และข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นของค่าเงินดอลลาร์อาจยังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งปีใหม่
ซื้อขาย USA 500 – แผนภูมิราคา US500
คำถามที่พบบ่อย
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะขึ้นหรือไม่?
ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะเป็นอย่างไรในปี 2022 USD ยังคงมีความผันผวนในระดับสูง แต่ว่าทั้ง ING และ Goldman Sachs ก็ยังคงมีการคาดการณ์ไปในเชิงบวกสำหรับดอลลาร์สหรัฐ
USD เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
ก็อาจจะเป็นไปได้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่ในระหว่างการเป็นไปตามแผนและนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เป็นปัญหาต่อเนื่องและผลกระทบจากโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ทำให้การคาดการณ์ยังคงมีความไม่แน่นอน โปรดจำไว้ว่าควรทำวิจัยและศึกษาด้วยตัวของคุณเองและอย่าลงทุนมากกว่าจำนวนเงินที่คุณจะสามารถเสียได้
วิธีการลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
สามารถซื้อขาย USD ได้ในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่าง ๆ รวมถึง Currency.com การตัดสินใจซื้อขายของคุณขึ้นอยู่กับทัศนคติต่อความเสี่ยง ความเชี่ยวชาญของคุณในตลาด การกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ และการยอมรับในการสูญเสียเงินลงทุนของคุณ