ร่างกายที่ไม่มีอวัยวะ: ความรุนแรงทางเพศใน Metaverse
ผู้หญิงจะอ่อนแอต่อการถูกทำร้ายและโจมตีใน Metaverse ได้เหมือนในชีวิตจริงหรือไม่

เนื้อหา
- กรณีการล่วงละเมิดทางเพศ
- การโทษเหยื่อ
- การใช้ VRChat ในทางที่ผิด: อันตรายจากการใช้งานบน metaverse
- เทคโนโลยีและการล่วงละเมิดทางร่างกาย
- ความคิดสุดท้าย
- คำถามที่พบบ่อย
จากข้อมูลที่ระบุว่าผู้หญิง 1 ใน 5 ผู้หญิงในสหราชอาณาจักรเคยถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ ความคิดที่ว่า metaverse อาจไม่เพียงแต่สะท้อนปัญหาความรุนแรงทางเพศ แต่อาจกลายเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาความรุนแรงทางเพศมากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก
เมื่อมีผู้ใช้ metaverse มากขึ้นกล่าวหาว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศในขณะที่ใช้แพลตฟอร์มรวมถึงการข่มขืน 'เสมือนจริง' และการล่วงละเมิดแบบ 'เสมือนจริง' คำถามคือ metaverse นี้จะยังคงปลอดภัยสำหรับผู้หญิงและเด็กอยู่หรือไม่
หากไม่มีกรอบทางกฎหมายในการปกป้องเหยื่อและไม่มีการบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นใน metaverse ก็อาจจะก่อให้เกิดความเป็นไปได้ที่ผู้กระทำผิดหรือผู้ล่วงละเมิดจะสามารถบุกรุกหรือใช้ประโยชน์จากผู้ใช้รายอื่นได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก
นอกจากนี้ เนื่องจากเทคโนโลยี VR มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่สมจริงมากขึ้นกลับส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเหยื่อจากการกระทำความรุนแรงทางเพศเสมือนจริง ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงคนหนึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศจากการถูกจับหน้าอกในขณะที่เธอสวมเสื้อกั๊ก ด้วยการสวมใส่ชุดบอดี้สูทแบบ sensory ที่เป็นสัญลักษณ์ว่าเรากำลังเข้าใกล้เทคโนโยนีอนาคตเข้าไปทุกที แต่ในขณะเดียวกันก็กลับทำให้ผลกระทบจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศใน metaverse กลายเป็นเรื่องน่าวิตกกังวลมากขึ้น
เป็นไปได้หรือไม่ที่บริษัท metaverse จะดูแลผู้หญิงและสมาชิกที่อ่อนแอของสังคมให้ปลอดภัย? ใครควรรับผิดชอบ การล่วงละเมิดเหล่านี้ควรถูกนับเป็นอาชญากรรมหรือไม่ ผลกระทบทางกฎหมายของผู้ใช้อื่นที่ทำร้ายผู้ใช้รายอื่นจะเป็นอย่างไร “คุณ” อยู่ใน metaverse ที่เชื่อมโยงกับตัวตนของคุณในชีวิตจริงอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ก่อนพยายามตอบคำถามเหล่านี้ เรามาวิเคราะห์กรณีที่เคยเกิดขึ้นกันก่อนดีกว่า
กรณีการล่วงละเมิดทางเพศ
หนึ่งในกรณีแรก ๆ ของการถูกล่วงละเมิดทางเพศใน metaverse เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนเมื่อผู้ทดสอบเบต้าหญิงคนหนึ่งถูกบีบคอบน Horizon Worlds ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มความเป็นจริงเสมือนของ Meta
ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ ผู้ทดสอบรุ่นเบต้ากล่าวว่า "การคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องตลกบนอินเทอร์เน็ต แต่การอยู่ใน VR ได้เพิ่มเลเยอร์อื่นที่ทำให้เหตุการณ์เข้มข้นขึ้น เมื่อคืนฉันไม่ได้แค่คลำหาเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่นๆ ที่นั่นที่สนับสนุนพฤติกรรมนี้ ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวในพลาซ่า (พื้นที่รวบรวมส่วนกลางของสภาพแวดล้อมเสมือนจริง)”
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับโลกแห่งการเล่นเกม ในปี 2016 ผู้ใช้หญิงคนหนึ่งได้ถูกคลำหน้าอกของเธอในขณะที่กำลังเล่นเกมซอมบี้ที่เรียกว่า Quivr
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจดหมายเปิดผนึก จอร์แดน เบลาเมียร์ ผู้เคราะห์ร้ายจำได้ว่า "ท่ามกลางคลื่นซอมบี้และปีศาจที่พวกเรากำลังจะโจมตี ตอนนั้นฉันยืนอยู่ข้างๆ BigBro442 รอจะยิงพวกซอมบี้ ทันใดนั้นหมวกกันน็อคของ BigBro442 ก็หันหาฉัน มือของเขาที่ลอยเข้ามาใกล้ร่างของฉันและเขาก็เริ่มที่จะลูบหน้าอกของฉัน 'หยุดนะ!' ฉันร้องไห้… แม้ว่าฉันจะเดินหนีแล้ว แต่เขาก็ยังเดินวนไปวนมา พยายามจะคลำหน้าอกของฉันให้ได้ เขายังเอามือล้วงเข้าไปที่เป้ากางเกงของฉัน”
นีน่า เจน พาเทล นักจิตบำบัดที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบทางจิตใจ ได้กล่าวว่าเธอเคยได้รับความรุนแรงทางเพศในเกม Horizon Worlds โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ในสื่อว่า “หลังจากเข้าเกมไปได้แค่ 60 วินาที ฉันก็ถูกคุกคามทางวาจาและคุกคามทางเพศแล้ว มีตัวละครผู้ชายสามหรือสี่ตัวเข้ามาข่มขืนฉันในเกมและถ่ายภาพขณะที่ฉันพยายามหนี และยังตะโกนใส่ว่า ‘อย่าแกล้งทำเป็นไม่ชอบสิ!'”
ตามที่พาเทลกล่าว ยังมีเหยื่ออีกหลายรายได้เข้ามาหาเธอซึ่งล้วนมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันบนแพลตฟอร์ม
การโทษเหยื่อ
วิเวก ชาร์มา ประธานของ Horizon Worlds ตอบสนองต่อข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศเหล่านี้เรียกว่า "น่าเศร้ามาก ๆ"
ในการตอบสนองต่อการที่ผู้ใช้เบต้าที่ล่วงละเมิดทางเพศนั้น มีการตรวจสอบภายในโดยแนะนำว่าผู้ใช้ควรเปิดใช้งานเครื่องมือที่เรียกว่าโซนปลอดภัย (Safe Zone) หนึ่งในคุณสมบัติด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม Safe Zone จะสร้างฟองอากาศรอบ ๆ ผู้ใช้ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีใครสามารถโต้ตอบหรือพูดคุยกับพวกเขาได้จนกว่าพวกเขาจะลบคุณลักษณะนี้ออก
มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่อการตอบสนองของ Meta ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ควรที่จะเป็นหน้าที่ของเหยื่อที่จะต้องป้องกันตัวเองจากการล่วงละเมิด นักพัฒนาผู้สร้างแพลตฟอร์ม: แพลตฟอร์มควรแสดงความรับผิดต่อการเรียกร้องการทำร้ายร่างกายหรือไม่? แพลตฟอร์มจะถูกบังคับให้ตั้งค่าวิธีการตรวจสอบการกล่าวอ้างถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีและลงโทษผู้กระทำผิดหรือไม่? แพลตฟอร์มมีทรัพยากรพอที่จะทำหรือเปล่า?
ทางเลือกอื่นคือผู้เสียหายต้องใช้คุณลักษณะด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องตนเอง หากมีการละเมิดเกิดขึ้นจะถือเป็นความผิดของเหยื่อที่ไม่ได้ใช้คุณลักษณะด้านความปลอดภัยเหล่านี้หรือไม่?
ในการตอบสนองต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของเหยื่อที่ถูกกล่าวหาอย่าง คริสติน่า มิเลียน โฆษกของ Meta ได้กล่าวกับ Technology Review ว่า "เราต้องการให้ทุกคนใน Horizon Worlds ได้รับประสบการณ์ที่ดีด้วยเครื่องมือความปลอดภัยที่เข้าถึงได้ง่าย... เราจะปรับปรุงส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (User interface: UI) ของเราอย่างต่อเนื่องและเพื่อทำความเข้าใจว่าผู้คนใช้เครื่องมือของเราอย่างไรเพื่อให้ผู้ใช้สามารถรายงานสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและเชื่อถือได้ เป้าหมายของเราคือการทำให้ Horizon Worlds ปลอดภัยและเราตั้งใจที่จะทำให้แพลตฟอร์มของเราปลอดภัยมากขึ้นจริง ๆ "
การใช้ VRChat ในทางที่ผิด: อันตรายจากการใช้งานบน metaverse
ข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงเกี่ยวกับผู้เยาว์ที่สามารถเข้าถึงสื่อลามกและการล่วงละเมิดทางเพศผ่าน VRChat ซึ่งเป็นแอปโซเชียลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในร้านแอปของ Meta ได้สร้างความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความเสี่ยงในการล่วงละเมิดทางเพศบน metaverse
การศึกษาจาก Centre for Countering Digital Hate ระบุว่าบน Meta มีรายงานการละเมิดนโยบายของแพลตฟอร์มถึง 100 ครั้งในเวลา 12 ชั่วโมง ผลการศึกษาระบุว่า รวมถึงการที่ผู้เยาว์เข้าถึงหนังโป๊ฮาร์ดคอร์ การกลั่นแกล้ง ข้อความเหยียดผิวและข้อความสุดโต่ง และการคุกคาม
อิมราน อาเหม็ดซึ่งเป็นซีอีโอของ Centre for Countering Digital Hate กล่าวว่า “เมื่อ Facebook เปิดตัว Metaverse for Oculus นั้น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอได้ให้คำมั่นใจว่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยคือหัวใจของความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality)
“แต่นักวิจัยของเรากลับค้นพบว่า Metaverse เป็นแหล่งของสื่อลามกอนาจารและการเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ จากการศึกษาของเรา นอกจาก Metaverse จะเชื่อมต่อผู้ใช้ด้วยกันได้แล้ว ยังเชื่อมต่อผู้ละเมิดทางเพศหรือผู้อนาจารที่ปล่อยสื่อลามกออกมาทุก ๆ 7 นาที ถ้า Metaverse ปลอดภัยสำหรับคนเหล่านี้ Metaverse ก็ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้โดยเฉพาะเด็ก ๆ ”
เทคโนโลยีและการล่วงละเมิดทางร่างกาย
ตั้งแต่นักอนาคตนิยมชาวอิตาลีไปจนถึงนักทฤษฎีการเมืองหลังสมัยใหม่เช่น เดลูซ และ กัตตารี ศิลปินนักเขียนและนักทฤษฎีนับไม่ถ้วนได้ศึกษาว่าเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่นำมาซึ่งวิธีการใหม่ ๆ ในการล่วงละเมิดทางร่างกายและการทุจริตต่าง ๆ นักลามกอนาจารสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการถ่ายภาพ เทคโนโลยีในโรงภาพยนตร์ เทคโนโลยีสำหรับวิดีโอและอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีและความสัมพันธ์กับการละเมิดทั้งร่างกายจิตวิญญาณและศีลธรรมของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย
จริง ๆ แล้วเทคโนโลยีและความแปลกแยกของมนุษย์มักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน
ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่หรือโพสต์ภาพที่สามารถทำได้อย่างอิสระซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาต่อตนเองและผู้อื่น ไปจนถึงการเข้าถึงสื่อลามกอนาจารที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่มีอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าโลกดิจิทัลส่งผลกระทบต่อวิธีที่เราประมวลผลและเชื่อมโยงกับผู้อื่น
นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส กิลส์ เดลูซ และเพื่อนร่วมงานของเขา เฟลิกซ์ กัตตารี พยายามที่จะอธิบายมิติเสมือนของร่างกายโดยใช้คำว่า "ร่างกายที่ไม่มีอวัยวะ (body without organs)" สภาพภายนอกโดยที่ร่างกายได้รับการปลดปล่อยจากการจัดระเบียบของสิ่งมีชีวิต อวตารของผู้ใช้เป็นการแสดงออกของพลังจิตและร่างกายของผู้ใช้
ในนวนิยาย เรื่อง Crash ของ JG Ballard ได้เล่าถึงกลุ่มของเหยื่อจากอุบัติเหตุรถชนที่มีจินตนาการอันวิปริตและอยากสร้างสถานการณ์ของอุบัติเหตุนั้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยการขับรถชนเหล่าเซเลป นวนิยายที่เขียนด้วยภาษาที่มีความซับซ้อนเต็มไปด้วยเนื้อหาที่มีความรุนแรง รักร่วมเพศ และเทคโนโลยี สะท้อนให้เห็นถึงวิธีที่เทคโนโลยีสามารถบิดเบือนเพศสภาพและความเข้าใจทางร่างกายได้อย่างดี
การเพิ่มขึ้นของ metaverse สามารถทำให้เกิดวิธีการใหม่ ๆ ที่บุคคลจะถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ได้ มนุษย์อาจไม่มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่นอีกต่อไป แต่กลับเลือกที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับอวตาร์ในแพลตฟอร์มแทนซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไร้กฏหมาย
ความคิดสุดท้าย
นักวิจารณ์บางคนมองว่าสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะและเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในวงกว้างเป็นการแสดงออกถึงอุดมคติของฝ่ายขวา ตลาดเสรี และแนวคิดทุนนิยมใหม่
แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์อะไรก็ตาม ส่งผลให้ความไม่สมดุลที่มีอยู่เดิมในสังคมโลกกลับแย่ลง ตั้งแต่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไปจนถึงการทารุณกรรมเด็ก ความไม่เท่าเทียมเหล่านี้กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกรอบการทำงานที่ไม่มีการกำกับดูแล แต่สกุลเงินดิจิทัลยังคงมีการใช้การกันต่อไป
รายงานของ Centre for Countering Digital Hate ระบุว่า Metaverse มีโอกาสที่จะเป็นอันตรายสูง หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมผลกระทบของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังไม่มีการพัฒนามีมากเท่าที่ควร ทำให้ผู้คนยังคงสงสัยในแนวคิดที่ว่าจะมีการสร้างกฏเกณฑ์และการปราบปรามพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ใน metaverse
ในที่สุด Meta และแพลตฟอร์ม metaverse อื่น ๆ ยังเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเงินทุน หน้าที่และเป้าหมายหลักของพวกเขาไม่ใช่การปกป้องบุคคลแต่เป็นการเพิ่มผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นสูงสุด ดังนั้นการคาดหวังให้บริษัทเหล่านี้พิจารณาทางเลือกทางจริยธรรมเมื่อวางรากฐานของแพลตฟอร์ม VR ของพวกเขาจึงฟังไม่ค่อยขึ้น
ในขณะเดียวกันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดหวังว่าหน่วยงานระดับชาติและระดับโลกที่มีกรอบกฎหมายที่ไม่เพียงพอจะเข้ามาพยายามจัดการกับอำนาจการขยายตัวของเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพื่อปกครองและควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกเสมือนจริง
ด้วยขอบเขตทางกฎหมายที่ดูเหมือนจะช่วยเหลืออะไรไม่ได้แม้ว่าอวตารก็คือบุคคลจริง ๆ และองค์กรเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ไร้ความรับผิดชอบ ทางเลือกเดียวที่จะทำได้ก็คือบุคคลต้องรับผิดชอบตนเองในโลกเสมือนจริง หรือผู้ปกครองที่จะต้องรับผิดชอบต่อบุตรหลานของตน
เราจะถือว่านี่คือการโทษเหยื่อหรือโยนความรับผิดชอบมาให้เหยื่อหรือไม่นั้น ยังคงต้องมีการถกเถียงต่อไป ถ้า metaverse เป็นสถานที่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นสถานที่ที่มีแต่ความรุนแรงและการละเมิด ผลของการรับความเสี่ยงสุดท้ายก็ต้องตกอยู่ที่ตัวบุคคล นี่คือปัญหาทั้งหมด ตั้งแต่การเล่มเกมบวกกับปัญหาทางโซเชียลมิเดีย บวกกับปัญหาเนื้อหาล่วงละเมิดบนอินเทอร์เน็ตที่ดูเหมือนจะว่าจะเรื้อรังมากขึ้นเรื่อย ๆ
จาก Countering Digital Hate อาเหม็ดแนะนำอย่างเด็ดขาดว่าให้ผู้ปกครองส่งคืนอุปกรณ์ VR ที่ซื้อไปและห้ามไม่ให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มเหล่านี้ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเราอาจจะยังหาความสนุกและเกมต่าง ๆ บน metaverse ไม่ได้แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์มต้องการจะนำเสนอก็ตาม
คำถามที่พบบ่อย
metaverse อันตรายอย่างไร
metaverse มีประเด็นความเสี่ยงและอันตรายมากมายจากมุมมองของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดทางเพศไปจนถึงความรุนแรงที่ละเมิดในการเล่นเกมไปจนถึงการเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้นมีมากมายและจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ
Metaverse ทำงานอย่างไร
Metaverse เป็นโลกเสมือนจริงที่บุคคลโดยใช้ชุดหูฟังเสมือนจริง (VR) และถุงมือประสาทสัมผัสที่สามารถมีส่วนร่วมกับผู้ใช้คนอื่น ๆ ในเล่นเกมหรือพูดคุยได้
คุณจะเตรียมตัวรับมือกับ metaverse ได้อย่างไร?
ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากคุณเป็นผู้หญิงและอยากใช้ metaverse คุณสามารถทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือความปลอดภัยต่าง ๆ ได้เผื่อใช้ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ หากคุณเป็นผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่อยากใช้ metaverse คุณสามารถศึกษาอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและวิธีที่จะลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้